สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารรสชาติเผ็ดนัว น้ำปลาร้า เชื่อว่าจะต้องชอบความอร่อยจาก ปลาร้า ด้วยแน่นอน เพราะถือเป็นหนึ่งในส่วนผสมสำคัญที่จะเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารสูตรแซ่บต่าง ๆ เมื่อใส่ปลาร้าเข้าไปแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารสชาติดีขึ้นทันที โดยน้ำปลาร้าที่ถูกนำมาปรุงจะนิยมใช้ 2 รูปแบบ คือ น้ำปลาร้าต้มสุกและน้ำปลาดิบ ซึ่งการใช้จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล

น้ำปลาร้า ต้มสุกถือเป็นอีกหนึ่งสูตรเด็ดของชาวอีสานแท้ที่ถูกใจคนเมืองไม่น้อย แม้ว่าบางคนอาจจะรู้สึกกังวลว่าการนำน้ำปลาดิบไปต้ม อาจทำให้รสชาติจืดจางลงหรือไม่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการทำและเครื่องปรุง ดังนั้นจึงขอแนะนำสูตรเด็ดอีสานแท้ของการทำน้ำปลาร้าต้มสุก ที่ใช้ปรุงอาหารต่าง ๆ แล้วยังคงแซ่บนัวได้ดี ดังนี้

  • เตรียมน้ำปลาร้าดิบ, ใบหม่อน, ใบกระถิน และเนื้อสับปะรด
  • เตรียมเครื่องปรุง คือ กะปิ, มะขามเปียก, น้ำตาลปี๊บ และกระเทียมดอง
  • นำทุกส่วนผสมที่เตรียมไว้ใส่ลงหม้อต้ม แล้วเคี่ยวด้วยระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง
  • ถ้าต้องการได้ความนัวที่มากขึ้น ให้เลือกปลาร้าดิบที่มีเนื้อปลาติดมาด้วย โดยให้ต้มจนกว่าเนื้อจะเปื่อยจนยุ่ย จากนั้นให้ใช้ผ้าขาวบางกรองน้ำปลาร้าเก็บไว้
  • สามารถแช่ตู้เย็น เพื่อรับประทานร่วมกับอาหารประเภทอื่น ๆ ได้ยาวนาน 1 ปี
  • ถ้าต้องการให้รสชาติของปลาร้ามีความเข้มข้นหรือมีรสอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถใส่เครื่องปรุงรสเพิ่มได้ตามที่คุณต้องการ

น้ำปลาร้า การใส่เครื่องเทศและส่วนผสมที่เป็นใบพืช จะช่วยลดกลิ่นคาว ทำให้รสชาติเกิดความกลมกล่อม และให้ความนัวที่จะทำให้อาหารประเภทอื่น ๆ มีรสชาติที่ดีตามไปด้วย พร้อมได้กลิ่นปลาร้าที่หอมอย่างมาก