หนึ่งในเรื่องสำคัญที่สาวรักผิวควรรู้ คือ การใช้ โทนเนอร์ ซึ่งในปัจจุบันกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะโทนเนอร์ที่เคยมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์สูง ถูกปรับสู่สูตรออแกนิคที่เลือกใช้เป็นสารสกัดธรรมชาติทดแทน  พร้อมการใส่สารบำรุงต่าง ๆ เพิ่ม จึงทำให้การใช้งานสร้างประโยชน์ต่อผิวได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้การใช้อย่างถูกต้องและถูกเวลา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วงที่จะทำให้ผลลัพธ์ของโทนเนอร์ดีที่สุด คือ

1.การใช้ช่วงเช้า

การใช้โทนเนอร์ในช่วงเช้า จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน, ผิวผสม และผิวมีปัญหาสิว โดยใช้หลังการล้างหน้าตามปกติและหยดโทนเนอร์บนสำลีเพียงเล็กน้อย เช็ดอย่างเบาบางตรงส่วนที่มีปัญหาผิว ทิ้งระยะเวลาประมาณ 1-2 นาที แล้วจึงค่อยตามด้วยสกินแคร์อื่น ๆ เพียงเท่านี้จะช่วยทำให้ผิวของคุณสุขภาพดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

2.การใช้ช่วงเย็น

การใช้ช่วงเย็นจะสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่ผู้ที่มีผิวแห้งควรเลือกสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นเพิ่มเติม และใช้เพียงแค่ช่วงเย็นหลังเลิกงานหรือเลิกเรียนแล้วเท่านั้น โดยจะใช้หลังการล้างหน้า พร้อมหยดใส่สำลีให้ชุ่มแล้วเช็ดอย่างเบามือ เพื่อทำให้ผิวได้รับความสะอาดความ สดชื่น และการฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่

สำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นบำรุงผิวจาก โทนเนอร์ แนะนำให้เลือกสูตรของการบำรุงมาโดยเฉพาะ จากนั้นเลือกใช้แผ่นสำลีแบบมาส์กหน้าขนาดใหญ่ แล้วนำโทนเนอร์แช่ในตู้เย็น หยดลงบนสำลีให้ชุ่ม พร้อมมาส์กหน้าประมาณ 5 นาที ช่วงเย็นทุกวัน จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีมาก พร้อมการฟื้นบำรุงผิวอย่างเห็นผลได้ชัด