ทุกท่านน่าจะมีความคุ้นเคยกับ “สบู่” กันเป็นอย่างดี เพราะถือเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับชำระล้างและทำความสะอาดร่างกายเวลาอาบน้ำ  ในปัจจุบันเราจะได้พบเจอกับสบู่หลากหลายแบบ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามันมาจากอะไร ? มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ 

 จุดเริ่มต้นของ “สบู่” ประวัติศาสตร์อันยาวนานที่หลาย ๆ คนไม่รู้มาก่อน

สบู่ที่เราเห็น ๆ กันทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่แต่อย่างใด ! เพราะจุดเริ่มต้นของการใช้สบู่ มีมามากกว่า 4,500 ปี หรือ ศตวรรษที่ 15 ก่อนคริสตกาล ผู้คนได้พบเจอและเริ่มต้นทำสบู่จากเอกสารสำคัญจากปาปิรัสอียิปต์โบราณ โดยข้อความในนั้นระบุไว้ว่าส่วนผสมของสบู่ที่คนสมัยก่อนใช้ จะประกอบไปด้วย น้ำมัน , สัตว์ , น้ำมันพืช และ เกลืออัลคาไลน์

ส่วนผสมทั้งหมดเมื่อผสมกันออกมาแล้ว จะมีสารสกัดที่ช่วยขจัดคราสกปรกและสิ่งปนเปื้อน ! ตั้งแต่นั้นมาเมื่อผลิตภัณฑ์ใช้ได้จริงจนกลายเป็นที่รู้จัก ก็มีการปรับสูตรพัฒนามาเรื่อย ๆ จนเป็นสบู่ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ จากเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในยุคนั้น ๆ เริ่มจากอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ขยายไปเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่รุ่งเรืองไปทั่วทุกทวีป

วิวัฒนาการของ “สบู่” ในแต่ละยุค

วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของสบู่ มีทั้งยุคที่สบู่เป็นกิจกรรมที่รุ่งโรจน์ และเกิดการเปลี่ยนแปลง จะมีอะไรบ้าง ? พัฒนามาในรูปแบบไหน ? มาดูกัน

ในปี ค.ศ. 1807 เป็นครั้งแรกที่ก่อตั้งอุตสาหกรรมสบู่ จากชายที่ชื่อว่า แอนดรูว์ เพียร์ส จากสบู่ธรรมดา ๆ ก็กลายมาเป็นสบู่ใส แถมยังเพิ่มเติมการใส่กลิ่นลงไป ซึ่งตอนนั้นจะเป็นกลิ่นของดอกกุหลาบ ( ไม่ใช่การแต่งกลิ่น ) เมื่อออกมาไม่นานก็เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว จากสารสกัดเดิม ๆ ก็คิดค้นสูตรเพิ่มเติมด้วย “ลูกแพร” นอกจากจะช่วยทำความสะอาดแล้ว ยังช่วยเรื่องของผิวด้วย เพราะทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นมากกว่าเดิม !

ปี ค.ศ. 1856 นอกจากสบู่ ก็เพิ่มเติมผลิตภัณฑ์ขึ้นมาอีก เช่น เจลล้างมือ , แชมพู , สบู่เหลว และอื่น ๆ แน่นอนว่าเมื่อมีสบู่เหลวออกมา คนส่วนมากจึงหันมาสนใจกับสบู่เหลวมากกว่าสบู่ก้อนแบบเดิม ๆ นอกจากการใช้กับผู้คนแล้ว ยังนำเอาไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์ภายในโรงพยาบาลด้วย ! ตั้งแต่นั้นมาจนถึง ค.ศ. 2022 ผลิตภัณฑ์สบู่ก็อ้างอิงมาจากวิวัฒนาการในสมัยก่อน แต่เพิ่มเติมให้แตกต่างทั้งเรื่องของ สี , กลิ่น , สารสกัด รวมถึง สารบำรุง ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรก ต้านเชื้อแบคทีเรีย ตลอดจนสบู่ที่ช่วยเรื่องของผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส หรือ ลดรอยดำรอยแดง

ชี้ชัดให้เห็นว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การใช้ “สบู่” ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คน มีผู้ผลิตหลายแบรนด์ที่ผลิตสบู่ออกมาให้ผู้บริโภคได้ซื้อไปใช้กัน หาซื้อได้แทบทุกที่ !